Thursday, October 28, 2010

ไหว้พระที่บ้านอริยวรรณ





พระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐมพุทธเจ้า ได้รับเมตตาจากพระครูพิพัฒนากรณ์(หลวงปู่ทองสา ฐานทินโน เจ้าอาวาสวัดถ้ำคูหาสวรรค์ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี)ประกอบพิธีอัญเชิญในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2552 ประดิษฐานที่บ้านนายพัทธุ์ทอง-นางอริยวรรณ จันทร์สว่าง 114 หมู่ 7 บ้านบกน้อย ตำบลดงแคนใหญ่ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร 35180


พระพุทธสมปรารถนา องค์พระประธานในบ้านอริยวรรณ







ไหว้พระ ครูบาอาจารย์ พ่อแม่ และทำสมาธิ เดินจงกรม สวดมนต์ เป็นกิจวัตรที่ทำทุกวันเช้าเย็นที่อยู่บ้าน
อริยวรรณ

Wednesday, October 20, 2010

วัดบ้านดอนเขือง อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธรประกอบพิธีเปิดโรงอบสมุนไพรช่วยบำบัดทางกายและจิตอย่างครบวงจร























วันที่ 20 ตุลาคม 2553 วัดบ้านดอนเขืองโดยพระแสง อคฺควันโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบ้านดอนเขือง ท่านเป็นพระนักพัฒนาและมีฝีมือด้านช่างศิลป์ ได้รวมศรัทธาญาติโยมสร้างศาลาการเปรียญและห้องน้ำของวัดโดยใช้ศิลปะปูนปั้นลายไทยทาสีทองลวดลายอ่อนช้อยงดงามผสมผสานกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว จนเป็นที่สนใจและมีผู้ไปชมความงดงามของศาลาการเปรียญและห้องน้ำของวัดเป็นจำนวนมาก ท่านได้รับศรัทธาญาติโยมบริจาคโรงอบสมุนไพร พร้อมเครื่องอบแบบครบวงจร ราคา 200,000 บาท และประกอบพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันนี้
โดยมีพระครูวิสณธ์ ธรรมมาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอคำเขื่อนแก้วเป็นประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์และนายสมเพชร สร้อยสระคู นายอำเภอคำเขื่อนแก้ว เป็นประธานฝ่ายฆราวาส โดยได้รับการสนุบสนุนการดำเนินงานการจัดตั้งโรงอบสมุนไพรครั้งนี้จากโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้วนำโดยนายแพทย์จักราวุธ จุฆาสงฆ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว และทีมงาน ได้แก่คุณนัยนา ดวงศรี หัวหน้ากลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชน,คุณภัทรวรรณ จันทร์ศิริ,คุณปฏิมา เจริญทรัพย์ และทีมงานของกลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัวชุมชน,แพทย์แผนไทยรวมทั้งฝ่ายเภสัชกรรมชุมชนโรงพยาบาลคำเขื่อนแก้วเป็นพี่เลี้ยงอสม.บ้านดอนเขืองทุกคนซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการผู้ที่จะรับบริการอบสมุนไพร รวมทั้งส่วนราชการทุกส่วนของอำเภอคำเขื่อนแก้ว ที่มีสวนผลักดันให้เกิดโรงอบสมุนไพรนี้ขึ้น ได้แก่สาธารณสุขอำเภอคำเขื่อนแก้วโดยนายวิทยา เพชรรัตน์,ผู้จัดการธกส.กำนัน,นายกอบต.,วัฒนธรรมอำเภอคำเขื่อนแก้ว,ผู้ใหญ่บ้านๆดอนเขือง พร้อมชาวบ้านดอนเขือง และบ้านใกล้เรือนเคียงต่างมาร่วมบุญครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียง ขอนุโมทนาบุญกับทุกๆท่าน

Monday, October 18, 2010

เยี่ยมคุณแม่จันทร์ทา ฤกษ์ยาม สำนักปฏิบัติธรรมภูริทัตตะ อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด







วันที่16 ตุลาคม 2553 อริยวรรณตั้งใจไปเยี่ยมคุณแม่จันทร์ทา ฤกษ์ยามที่สำนักปฏิบัติธรรมภูริทัตตะ อำเภอหนองอี จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งก็ได้รับเมตตาจากคุณแม่จันทร์ทาได้ให้คำแนะนำเรื่องการปฏิบัติธรรมอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งการครองตนในการปฏิบัติธรรมของฆราวาสซึ่งคุณแม่เป็นแบบอย่างที่ดีอย่างยากที่ใครจะเสมอเหมือน ท่านเป็นนักปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียง การปฏิบัติและจริยวัตรของคุณแม่งดงาม มีความเพียรเป็นเลิศสมกับคำล่ำลือยิ่งนัก มีศิษย์จำนวนมากที่มาพักปฏิบัติธรรมกับท่านที่สำนัก นอกจากนี้คุณแม่ยังเมตตาให้อริยวรรณเที่ยวชมสำนักปฏิบัติธรรม พร้อมทั้งพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ที่ท่านปลูกไว้ อนุญาตให้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกสร้างความประทับใจในบรรยากาศ อบอุ่น สงบ ร่มเย็น เป็นสุขยิ่งนักที่ได้พบเห็น ขอนุโมทนาบุญกับคุณแม่พร้อมครอบครัวและศิษย์รวมทั้งญาติธรรมที่ได้ไปร่วมทำบุญกับคุณแม่อย่างไม่ขาดสาย

Thursday, October 7, 2010

คุณครูในดวงใจอาจารย์กำพล พลพวก โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร



วันที่ 3 ตุลาคม 2553 นี้ อริยวรรณ ได้มีโอกาสไปร่วมงานถวายผ้าป่าเพื่อการศึกษาและมอบทุนการศึกษาที่โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวรซึ่งจัดขึ้นทุกปีเป็นวันสถาปนาโรงเรียน(วันคล้ายวันเกิด)สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกซึ่งทรงก่อตั้งโรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนที่เคยเรียนอยู่ตั้งแต่ชั้นม.1 ถึงม.3 ซึ่งเป็นพื้นฐานให้อริยวรรณรู้จักคำว่าอดทนและพากเพียร ทั้งในด้านการเรียนและการเล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลของโรงเรียน จากเด็กเก็บลูกวอลเลย์บอลข้างสนามเป็นตัวสำรองและตัวจริงของทีม จนเป็นนักตบมือหนึ่งชนะเลิศระดับจังหวัด เป็นตัวแทนจังหวัดร่วมแข่งขันระดับเขต ในการแข่งขันวอลเลย์บอลเพาเวอร์ทัวร์นาเมนท์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและความภาคภูมิใจที่สุดในช่วงชีวิตวัยรุ่นตอนต้นคือ อาจารย์กำพล พลพวก โค๊ชซึ่งเป็นครูในดวงใจ ท่านได้ทุ่มเททุกอย่างสำหรับลูกศิษย์ทั้งกำลังกาย กำลังใจ และทรัพย์จำนวนมาก ส่งผลให้ทีมวอลเลย์บอลโรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวรมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก วันนี้แม้อริยวรรณจะแขวนสนับเข่าหลายปีแล้ว แต่ภาพความทรงจำ ความประทับใจ และความสนุกสนานร่าเริง จากการเป็นผู้ชนะ เป็นดาวของทีมที่มีผู้ชมมาขอลายเซ็นต์ข้างสนามยังประทับไว้ในใจไม่รู้ลืม